.
.
.
อยากจะเก็บช่วงเวลาแบบนี้เอาไว้ ตลอดไปจัง
-------------------------------
เวลายังคงดำเนินต่อไปอย่างช้าๆ สายลมหนาวยามค่ำคืนยังคงพัดหอบเอากลิ่นอายของท้องทะเลเข้ามาเอื่อยๆ ราวกับกำลังโอบกอดร่างบางของแทยอนอย่างทะนุถนอม แต่มันก็ไม่อบอุ่นเท่ากับอ้อมกอดของทิฟฟานี่คนรักที่ยังคงโอบรอบตัวของเธอเอาไว้
แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามากระทบกับใบหน้าขาวยามหลับของแทยอนซึ่งทิฟฟานี่เองก็เผลอมองอยู่เป็นเวลาเนิ่นนานราวกับต้องมนต์สะกดมิให้เบือนสายตาหนีได้ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง พร้อมๆ กับที่ทิฟฟานี่จะเอื้อมมือไปสัมผัสที่ศีรษะของคนรัก และลูบไล้ปอยผมของเธอเล่นอย่างเอ็นดู
.
.
.
ผ่านไปเกือบชั่วโมงที่ทิฟฟานี่ยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น เธอยังคงนั่งมองเหม่อออกไปยังท้องฟ้าเบื้องบนที่พร่างพราวไปด้วยดวงดาวนับร้อยพันที่กำลังส่องแสงประกายระยิบระยับ เสียงของเกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้าหาฝั่งยังคงดังแว่วมาไกลๆ พอให้ได้ยิน
ซ่าา
ซ่าาาา
ทิฟฟานี่จึงหันไปมองตามเสียงของเกลียวคลื่นนั้น เธอมองออกไปทางหน้าต่างอีกบานหนึ่งซึ่งเห็นวิวของบ้านพักกลางทะเลที่ยาวยื่นออกไป แสงไฟสีส้มตามทางเดินช่วยทำให้บรรยากาศ ณ. ตรงนั้นดูสวยงามยิ่งนัก หากเธอกับแทยอนไปพักอยู่ตรงนั้น... มันจะโรแมนติกแค่ไหนกันนะ ?
.
.
.
RRRR
RRRRRR
แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ทำให้ความฝันชั่วครู่ของทิฟฟานี่ต้องพังทลายลงและเอื้อมมือไปหยิบเอาโทรศัพท์ของตนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะไม่งั้นเสียงของมันอาจจะรบกวนสาวร่างเล็กที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาก็เป็นได้
“ฮัลโหล ?”
เธอกดรับและลุกขึ้นจากเตียงออกมานอกห้องนอน ตรงออกมายังระเบียงทางด้านนอก
/เป็นยังไงบ้างคะแม่ ? เอ่อ... นี่หนูโทรมารบกวนรึเปล่าคะนี่ ?/
น้ำเสียงใสๆ ของซอฮยอนดังขึ้นทำเอาทิฟฟานี่หลุดยิ้มออกมากับความเปิ่นของลูกสาวที่โทรมาไม่รู้จักเวล่ำเวลา... แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร
“แล้วโทรมานี่มีอะไรงั้นเหรอ ซอจู ?”
/ก็หนูคิดถึงแม่หมีนี่นา.../
เด็กสาวตอบกลับและอมยิ้ม
/แล้วแม่แท้งล่ะคะ ?/
“ยัยนั่นหลับไปแล้วล่ะ
”
“ใครว่าชั้นหลับ ?”
เสียงใสๆ ของแทยอนที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำเอาทิฟฟานี่ถึงกะสะดุ้ง พร้อมกับหันไปมองแทยอนที่เดินตรงเข้ามาและหยุดยืนอยู่ข้างๆ
“ซอจูเหรอ ?”
“อือฮึ !”
ทิฟฟานี่ตอบกลับ ก่อนที่จะกดเปิดลำโพงที่โทรศัพท์
“โทรมามีอะไรงั้นเหรอซอจู ?”
/อ่าว ไหงแม่มีบอกว่าแม่หลับไปแล้วไงคะ ?/
“ก็เพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์น่ะสิ ถึงได้ตื่นขึ้นมา...”
แทยอนตอบกลับ
/งั้นนี่หนูก็โทรมารบกวนแม่อะดิ.../
“ไม่ซะหน่อย... ใครจะกล้าต่อว่าลูกสาวที่อุตส่าห์โทรข้ามทวีปมาหากันล่ะ”
แทยอนตอบกลับและยิ้มออกมา
“แล้วตอนนี้ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อยู่กับยูนอาแล้วมันทำอะไรให้ลูกต้องลำบากใจอีกรึเปล่า ? ถ้ามีบอกแม่ได้นะ...”
/ก็ไม่นี่คะ... พี่เขาก็ตั้งใจทำงานที่ร้านดีอะ อ้อ ! วันนี้หนูเพิ่งจะลองแต่งหน้ากาแฟดู ตอนแรกๆ มันก็ยากนะ แต่ตอนนี้หนูก็คิดว่ามันสนุกดีอะ.../
ทั้งสองคนฟังสิ่งที่ลูกสาวของพวกเธอเล่าให้ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
/แล้วล่าสุด... หนูยังเคืองพี่เขาไม่หายเลยอะ/
“ทำไมเหรอ ?”
/ก็พี่เขาเอาตุ๊กตาเคโรโร๊ะของหนูไปซัก แล้วดันทำสีตกใส่อะดิ ตัวที่แม่ซื้อให้หนูอะ ! จากสิบโทสีเขียวกลายเป็นสีรุ้งไปเลย/
“ยัยนั่นมันคงไม่ได้ตั้งใจหรอกน่า... เอาไว้เดี๋ยวแม่ซื้อให้ใหม่ก็ได้เจ้าสิบโทตัวนั้นอะ”
แทยอนพูดขึ้นและเอามือปาดน้ำตาออก ไม่ใช่เพราะเศร้า หรือซึ้ง... เพราะอดที่จะขำเสียมิได้ที่ลูกสาวของเธอทะเลาะกับแฟนตัวเองเพราะแค่ตุ๊กตาตัวเดียว
“เอาน่า... เดี๋ยวแม่ซื้อให้ใหม่นะ”
ทิฟฟานี่พูดขึ้นและยิ้มออกมาบางๆ อย่างชอบใจ เพราะเธอรู้ดีว่าลูกสาวของเธอติดการ์ตูนเรื่องนั้นมากแค่ไหน แล้วอีกอย่าง... ลูกสาวของเธอก็เก่งน่าดูที่มาลากแทยอนให้ไปดูจนติดไปกับเขาด้วย
ทั้งสามยังคงคุยกันไปเรื่อยๆ จนลืมเวลา... เผลอแปปเดียวก็เกือบจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว
/งั้นเดี๋ยวหนูขอตัวก่อนนะคะ... รักแม่นะ/
เด็กสาวพูดยิ้มๆ
“อื้อ...”
แทยอนตอบกลับ ก่อนที่ซอฮยอนจะกดวางสายไป ทั้งสองจึงยืนมองหน้ากันอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะยิ้มให้กัน
“เราเองก็เข้าไปนอนพักกันบ้างเถอะ...”
“อื้อ !”
แทยอนตอบกลับและเอื้อมมือส่งไปให้กับคนรักของตน ราวกับเป็นการเชิญชวนให้ไปนอนด้วยกัน ซึ่งทิฟฟานี่เองก็คว้ามือของแทยอนเอาไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะหายกลับเข้าไปด้วยกัน
อีกฟากโลกหนึ่ง ณ. กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้...
“โทรไปหาใครเหรอที่รัก ?”
น้ำเสียงหวานๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ซอฮยอนจึงค่อยๆ หันกลับไปและยิ้มให้กับยูนอาที่เธอรัก
“ก็โทรไปฟ้องแม่เรื่องที่พี่ทำตุ๊กตาสิบโทของหนูเป็นสีรุ้งนั่นแหล่ะ !”
“ยังไม่หายโกรธพี่อีกเหรอ ?”
เธอเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อย กึ่งสำนึกผิดและต้องการที่จะอ้อน แต่ซอฮยอนก็ยังคงนิ่งเฉย และเดินกระทืบเท้าจากไปอย่างงอนๆ ทำเอายูนอาที่อุตส่าห์อ้อนแล้วต้องมองตามหลังไปอย่างค้อนๆ
อะไรกัน
คนเขาอุตส่าห์ง้อแล้วนะ
เชอะ !
กลับมาที่ด้านของทิฟฟานี่และแทยอนอีกครั้ง เธอทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอันแสนจะนุ่มนิ่มกางแขนและขาออกอย่างสบายๆ ก่อนที่จะหลับตาลงและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ทิฟฟานี่มองดูคนรักของตนและยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะค่อยๆ คลานขึ้นเตียงไปและนอนลงข้างๆ แทยอน ก่อนที่จะเขยิบเอาหัวของเธอไปหนุนแขนของแทยอนเอาไว้ ความรู้สึกในตอนนี้มันทำให้เธอคิดย้อนกลับไปถึงเมื่อครั้งแรกๆ ที่เธอได้คบกับแทยอนเลย
.
.
.
เมื่อก่อน
คนที่เคยหนุนแขนของเธอ ก็คือฉัน
ทิฟฟานี่คิดในใจและเหลือบมองดูแทยอนคนรักสักพัก พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แล้วเราเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไรกันนะ
? เธอคิดต่อก่อนที่จะหลับตาลงซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่แทยอนค่อยๆ พลิกตัวกลับมาและโอบกอดสามีที่รักของเธอเอาไว้
ทั้งๆ ที่เมื่อก่อน
คนที่เป็นสามี อาจจะเป็นเธอ
ก็ตามที
“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ ฟานี่อา ?”
น้ำเสียงใสๆ ของแทยอนดังขึ้นเบาๆ ทิฟฟานี่จึงพลิกตัวกลับมาและยิ้มให้
“ไม่มีอะไรหรอก
ก็แค่คิดถึงช่วงวันเวลาเก่าๆ น่ะ”
“ทำไมเหรอ ?”
เธอถามต่อ
“ก็แค่เห็นเหมือนเธอกำลังคิดอะไรอยู่เท่านั้นแหล่ะ ถึงได้ถาม
”
แทยอนเงียบสักพักและถามขึ้นต่อ
“แล้วที่ว่าวันเก่าๆ มันยังไงเหรอฟานี่อา ?”
“ก็ตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่เราได้รู้จักกันน่ะ เธอจำได้ไหมว่าเราพบกันยังไง
แทยอนอา ?”
“จำได้สิ
”
.
.
.
“
จำได้ดี ไม่มีลืมเลย
”
-------------------------------
ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 4 ปีก่อน... (Tiffany’s Point of View)
กลับไป... เมื่อครั้งแรกๆ ที่ฉันได้รู้จักกับเธอ คิมแทยอน...
เธอจะรู้ไหมนะ ว่าไม่ใช่แค่เธอหรอกที่แอบมองฉัน แต่ฉันก็แอบมองเธออยู่เหมือนกัน... จะว่าไงดีล่ะ เอาเป็นว่าฉันเองก็สนใจเธออยู่เหมือนกันละกัน ^^
ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ... ที่ฉันเริ่มสนใจในตัวเธอ
ฉันได้แต่นั่งมองเหม่อออกไปยังวิวทิวทัศน์ทางด้านนอกของหน้าต่างห้องเรียน แสงอาทิตย์อ่อนๆ สาดส่องเข้ามาภายในห้องกระทบกับผิวอันขาวเนียนของสาวตายิ้ม ทำให้แม้แต่เพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างยูริยังอดที่จะชื่นชมเสียมิได้เลย
“เธอเป็นบ้าอะไรของเธอน่ะฟานี่ เห็นเอาแต่นั่งเหม่อมานานละ ?”
“ก็แค่กำลังคิดอะไรเพลินๆ น่ะ... ว่าแต่เธอเถอะ ได้ข่าวว่าแอบสนยัยยูริอยู่ไม่ใช่รึไงล่ะ ?”
ฉันถามกลับและรอดูท่าทีของเจ้าหญิงน้ำแข็งที่กำลังนั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆ
ดูท่าจะจริงแฮะ ที่ยัยนี่มันชอบยัยยูริ... ยัยนั่นมันมีอะไรน่าสนใจนักงั้นเหรอไงน่ะ... ความจริงชั้นก็อยากจะถามแบบนี้อยู่หรอกนะ แต่กลัวยัยนี่มันจะถามกลับน่ะสิ แล้วฉันล่ะ...
ทำไมฉันถึงสนใจคิมแทยอน...
.
.
.
นั่นสิ... ทำไมชั้นถึงได้สนใจผู้หญิงคนนั้นกันนะ ?
และไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียวที่ฉันได้เห็นคิมแทยอน ฉันน่ะเห็นเธอบ่อยนะ แต่ไม่กล้าเข้าไปทัก ไม่กล้าเข้าไปพูดด้วยน่ะสิ ความจริง... ถ้าฉันมีความกล้ามากกว่านี้สักนิด ก็คงจะได้เข้าไปพูดคุยกับเธอแล้ว
ฉันได้แต่นั่งถอนหายใจขณะที่นั่งมองเหม่อออกไปทางด้านนอกของร้านกาแฟใกล้ๆ กับรั้วมหาวิทยาลัย กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟนั้นไม่ต่างอะไรกับแบ็คกราวน์ที่ขาดไม่ได้ ฉันยังคงนั่งจิบกาแฟแก้วโปรดของฉันต่อไปทีละน้อยๆ และมองดูอะไรไปเรื่อยๆ
“ขอนั่งด้วยคนได้ไหม ?”
จนกระทั่งเสียงใสๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งจะดังขึ้นตรงหน้า ฉันจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปอย่างช้าๆ และภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ก้ทำให้ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา
“ท... แทยอน ?”
“เธอชอบมานั่งดื่มกาแฟที่นี่งั้นเหรอ ทิฟฟานี่ ?”
แทยอนถามขึ้นขณะที่ฉันยังคงเอาแต่นั่งจิบกาแฟไม่กล้ามองขึ้นตรงๆ เพราะอะไรน่ะเหรอ ? ก็เพราะว่าฉันอายน่ะสิ ถึงอยากจะเจอ อยากจะเข้าไปพูดคุยด้วย แต่พอเอาเข้าจริง... ไม่รู้ความกล้ามันหายไปไหนหมด
บ้าชะมัดเลยฉัน !
“อ... อือ มันดูสงบๆ แล้วก็มีความเป็นส่วนตัวสูงน่ะ”
ฉันตอบกลับและมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่รู้ว่าว่าเธอเองก็จะหน้าแดงเหมือนกัน
“เมื่อกี้...”
“อะไรเหรอ ?”
“ก็ยัยยูริมันอยากจะมาขอแลกห้องกับฉันน่ะสิ...”
ว
ว่าไงนะ ?
ฉันจ้องกลับอย่างงงๆ กับสิ่งที่ตนเองเพิ่งจะได้ยินเมื่อสักครู่ ม
หมายความว่าไง ยูริกับเธอจะแลกห้องกัน
อ
อย่างนั้นน่ะเหรอ ? สายตายังคงจ้องไปที่แทยอนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“อืม
เห็นว่ายัยนั่นอยากจะอยู่กับเจสสิก้า ชั้นเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมมันถึงได้ด่วนอะไรขนาดนี้
”
เธอเงียบไปสักพักและเงยหน้าจ้องมองตรงมายังฉัน
“แล้ว
แล้วเธอค
คิดว่ายังไงล่ะ ?”
ไร้ซึ่งคำตอบใดๆ ต่างฝ่ายก็ต่างนิ่งเงียบกันอยู่อย่างนั้น ไม่เพียงแค่เงียบ แต่ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากันด้วย
ฉันพยายามจะทำตัวให้เป็นปกติ ทั้งๆ ที่ตอนนี้หัวใจมันไม่ยอมฟังคำสั่งเลย แม้ว่าจะพยายามสั่ง พยายามบังคับให้มันกลับมาเต้นเป็นปกติ เพราะตอนนี้หัวใจของฉันมันเต้นยังกับมันจะกระโดดออกมานอกอกอยู่แล้ว
เย็นไว้ทิฟฟานี่
เย็นไว้
“ไม่รู้สิ
”
ฉันตอบกลับ และเปลี่ยนเป็นมองเหม่อออกไปยังวิวทางด้านนอกของร้านแทน เพราะขืนนั่งจ้องกลับไป แทยอนจะรู้น่ะสิว่าฉันกำลังเขินจนหน้าแดงเนี่ย
แต่ก็ไม่ใช่แค่ทิฟฟานี่เท่านั้น
แทยอนเองก็กำลังหน้าแดงอยู่เช่นกัน แม้ว่าเธอจะพยายามเงยหน้ามองดูทิฟฟานี่ที่นั่งอยู่ตรงข้าม แต่ก็เพราะว่ากลัวอีกฝ่ายจะรู้ตัว เธอจึงได้แต่นั่งก้มหน้าก้มตาต่อไปแบบนั้นเท่านั้น จนกระทั่งเธอถามย้ำขึ้นอีกครั้ง
“แล้วเธอจะว่ายังไงล่ะ ?”
ฉันหันกลับไปมองดูหญิงสาวร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้ามอีกครั้ง
“ไม่รู้สิ
”
“เหรอ
?”
แทยอนตอบกลับเบาๆ น้ำเสียงของเธอเหมือนกับคนที่กำลังผิดหวัง และทำท่าเหมือนกับจะลุกออกไปจากที่นั่ง ทำให้ฉันต้องเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ พร้อมกับตอบกลับไปเบาๆ
“งั้นฉันจะลองเอาไปคุยกับเจสสิก้าดูก่อนก็แล้วกัน
ดูท่ายัยนั่นเองก็จะสนใจยูริอยู่เหมือนกัน”
“จ
จริงเหรอ ?”
“อือ
”
ฉันตอบกลับ
.
.
.
และนี่ล่ะมั๊ง สาเหตุที่ฉันและแทยอนได้มานอนอยู่ห้องเดียวกัน
หลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ทั้งฉันและแทยอนก็เริ่มจะสนิทกันมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับเพื่อนของฉันเจสสิก้า และยูริ ซึ่งดูท่าความสัมพันธ์ของสองคนนั้นจะไปแบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียวล่ะ ส่วนฉันกับแทยอนน่ะเหรอ ?
ในตอนนี้เราก็ยังคงอยู่ในฐานะของคำว่า ‘เพื่อน’ ล่ะนะ ไม่เกินเลยไปกว่านั้น
แม้ว่าใจจริงของเรา จะยังไม่ชัดเจนก็เถอะ
เพราะฉันเองก็ไม่รู้ว่าฉันคิดกับเธอยังไง
เหมือนๆ กับที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าคิดกับฉันยังไงนั่นแหล่ะ
ถึงจะพูดออกไปแบบนั้น
แต่ทำไมตอนที่ฉันเห็นเธอไปกอดกับเพื่อนสาวอีกคน
หัวใจของฉันมันถึงรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลยล่ะ
มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างหายไป ช่วงท้องของฉันมันรู้สึกโหวงเหวงแปลกๆ ไม่รู้สิ
ฉันเองก็ไม่รู้จะอธิบายไอความรู้สึกนี้ว่ายังไงหรอกนะ มันเหมือนกับ จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
มันกังวลใจ มัน
รู้สึกเจ็บ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ไอความรู้สึกแบบนี้จะเรียกมันว่าอะไรล่ะ ?
หึง
งั้นเหรอ ?
แล้วทำไมฉันถึงต้องหึงละ
ในเมื่อ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน นั่นสินะ
เราไม่ได้เป็นอะไรกัน นี่นา
แต่น่าแปลกที่น้ำตาฉันกลับไหลออกมาเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ด้วยนะ
.
.
.
ทำไมกัน ?
ถึงแม้จะได้มารู้เอาทีหลังว่าต่างคนต่างเข้าใจผิดไปกันเอง
แต่นั่นก็ทำให้ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันต้องการคืออะไร
ใช่
สิ่งที่ฉันต้องการก็คือเธอไงล่ะ คิมแทยอน
แล้วเธอจะรู้ไหมนะ ว่านับจากวันนั้น จนถึงวันนี้
ฉันมีความสุขมากแค่ไหน ?
ฉันหันกลับไปมองดูแทยอนคนรักที่กำลังนอนแผ่อยู่บนเตียงข้างกาย แม้ว่านานมาแล้วที่ฉันไม่ได้นอนหนุนแขนของเธอในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นแบบนี้
แต่ฉันก็มีความสุขที่ได้ทำให้เธอมีความสุข แบบที่เธอเคยมอบให้กับฉันเมื่อก่อนไงล่ะ แทยอนอา
เธอจะรู้ไหมนะ แทยอนอา
----------------------------------
“แล้วอนาคตของเราต่อไปจะเป็นยังไงนะ ?”
น้ำเสียงหวานๆ ของแทยอนดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับก้มมองดูทิฟฟานี่ที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของตนและยิ้มออกมาบางๆ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เธอก็ยังตื่นอยู่แท้ๆ แต่ไหงกลับมาหลับไปง่ายๆ แบบนี้ล่ะ ฮะๆ
แทยอนหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
นั่นสิ... อนาคตของเราจะเป็นยังไงต่อไปนะ... ?
.
.
.
(Taeyeon’s Point of View)
ช่วงเวลาค่ำคืนได้ผ่านพ้นไปเตรียมพร้อมต้อนรับเช้าวันใหม่ที่กำลังจะผลัดเปลี่ยนเข้ามา สายลมอ่อนๆ พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างทางหัวนอนที่เปิดอ้าเอาไว้ ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนจากสีดำหมองให้อ่อนลงจนไล่แปรเปลี่ยนเป็นสีส้มประกายทองสว่างไสวที่เส้นขอบฟ้า ก่อนที่พระอาทิตย์แห่งเช้าวันใหม่จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมา
กระทั่งเวลาผ่านไปอีกสักพัก... แสงแดดก็เริ่มสาดส่องเข้ามา
“ที่รัก... ตื่นได้แล้วน่า วันนี้คุณบอกจะไปว่ายน้ำเล่นกับชั้นนี่นา...”
น้ำเสียงหวานๆ ของทิฟฟานี่คนรักดังขึ้นพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ช่วยทำให้แทยอนที่กำลังหลับอยู่ต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากภวังค์ด้วยความงัวเงีย แต่เพราะความง่วงจึงทำให้เธอเลือกที่จะนอนต่อไปอีกสักพัก จนทิฟฟานี่ที่นั่งรออยู่ข้างๆ จะรู้สึกฉุนขึ้นมา
“คิมแทยอน !”
พร้อมกับเขย่าตัวเธอแรงขึ้น จนแทยอนต้องสปริงตัวลุกขึ้นมา
“วันนี้เธอสัญญากับฉันแล้วว่าจะไปว่ายน้ำเล่นกับฉัน แล้วเธอก็เป็นคนบอกเองด้วยว่าจะพาฮยอนอาไปเดินเล่นด้วย เพราะงั้นไม่ต้องมานอนต่อเลยนะ !”
“ฮยอนอา ?”
ฉันถามกลับอย่างงงๆ ใครกันล่ะ ฮยอนอา ? พร้อมกับขยี้ตาและมองไปทางทิฟฟานี่คนรักที่กำลังยืนกอดอกอยู่ ข้างๆ มีเด็กสาวตัวเล็กหน้าตาน่ารักคล้ายๆ กับฉันยืนเกาะชายเสื้อของทิฟฟานี่อยู่ ฉันลองขยี้ตาอีกครั้งและเพ่งสายตามองไปทางเด็กสาวคนนั้น
แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้เอ่ยถามอะไรต่อ เด็กสาวคนนั้นก็เอ่ยขึ้นเบาๆ
“แม่คะ !”
พร้อมกับวิ่งตรงเข้ามาหาและโอบกอดฉันเอาไว้ ความสงสัยเริ่มถาโถมเข้ามาจู่โจมสมองที่ยังเบลอๆ ของฉัน ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่ทิฟฟานี่คนรักของฉัน... เธอเองก็ดูเปลี่ยนไปมากเช่นกัน
นี่มันอะไรกัน... ?
ฉันมองไปทางทิฟฟานี่ที่กำลังจะเดินเข้ามาหา ใบหน้าของเธอดูคมเข้มขึ้น และสวยงามขึ้นจนฉันเองยังแทบจำไม่ได้เลย ว่านั่นคือคนรักของฉันจริงๆ น่ะเหรอ ? แล้วไหนจะเด็กคนนี้ที่มาเรียกฉันว่าแม่อีก... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกัน ?
“เธอเป็นอะไรของเธอน่ะแทยอนอา ?”
“ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า ?”
เธอถามต่อพร้อมกับส่งมือมาสัมผัสที่หน้าผากของฉันเบาๆ
“ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่นา... แล้วเป็นอะไรของเธอน่ะ ?”
.
.
.
“ชั้นขอถามอะไรแปลกๆ หน่อยได้ไหม ?”
“อะไรเหรอ ?”
“คือ... ฉันกับเธอมีลูกกันตั้งแต่เมื่อไรน่ะ ?”
“เธอเจ็บมากไหมน่ะ ?”
ทิฟฟานี่เอ่ยถามขึ้นพร้อมกับส่งมือมาสัมผัสที่แก้มขวาที่ปรากฏเป็นรอยแดงเพราะฝ่ามือของทิฟฟานี่คนรัก ไม่รู้ว่าเธอจะโกรธอะไรกันนักหนา เพราะชั้นไม่รู้จริงๆ นี่นาว่าชั้นกับเธอมีลูกกันได้ยังไง แล้วตั้งแต่เมื่อไร ?
เดี๋ยวนะ... หรือว่านี่คือความฝันของฉัน ?
น่าแปลกที่พอคิดได้ดังนั้น ความทรงจำต่างๆ ก็เริ่มไหลเข้ามาในหัว มันเป็นความทรงจำที่ฉันไม่เคยได้รับรู้มาก่อนเลย ทั้งเรื่องที่ฉันกับทิฟฟานี่มีลูกด้วยกัน และเรื่องการใช้ชีวิตของพวกเรา... หลังจากที่ได้แต่งงานและอยู่มาด้วยกัน
มันเหมือนกับว่า... นี่เป็นเรื่องในอนาคตที่ฉันหวังจะได้เห็นน่ะสิ
และฉัน... ก็ได้เห็นมันจริงๆ
“ไม่หรอก... ก็แค่นิดหน่อยน่ะ”
ฉันตอบกลับไปเบาๆ... และหันไปยิ้มให้กับทิฟฟานี่คนรักของฉัน เธอดูเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน จากหญิงสาวหน้าหวานกลับกลายเป็นหญิงสาวที่ดูคมเข้มและดูมีเสน่ห์ดึงดูดแบบผู้ใหญ่ ทุกอย่างที่เป็นเธอในตอนนี้ดูช่างมีเสน่ห์มากเสียเหลือเกิน
ฉันขยับเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับโอบกอดทิฟฟานี่เอาไว้ และจุมพิตเธอบนริมฝีปากเบาๆ ด้วยความรักพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใสเหมือนเช่นทุกครั้ง ก่อนที่จะขยับถอยห่างออกและหันมามองลูกสาวของฉัน คิมฮยอนอา
“งั้นเราไปเดินเล่นกันดีกว่า แต่ขอแม่ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะ อยู่กับแม่ฟานี่ไปก่อนล่ะ”
ฉันพูดและยิ้มให้กับลูกสาวที่สุดแสนจะน่ารัก และยีหัวแกเล่นเบาๆ ด้วยความรักและความเอ็นดู ก่อนที่จะเดินออกมาจากบริเวณนั้นและปล่อยให้ทิฟฟานี่อยู่กับลูกสาวไป และหลังจากที่ใช้เวลาทำธุระส่วนตัวไม่นาน ฉันก็เดินนำออกมาจากตัวบ้านพัก พร้อมกับกางแขนและยืดออกอย่างสบายๆ
ฮ้าาา !! อากาศเช้าๆ นี่มันช่างดีซะเหลือเกิน
ฉันสูดอากาศเข้าปอดอย่างสบายๆ และหันมองออกไปยังวิวของท้องทะเลอันสวยใสที่ทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องลงมาทำให้ทั้งผืนทรายสีขาวละเอียดและผืนน้ำทะเลสีครามนั้นดูสดใสขึ้นราวกับถูกแต่งแต้มและรังสรรค์จากพระผู้เป็นเจ้าเลย
จนทำเผลอมองดูอยู่อย่างเนิ่นนานโดยมิรู้จักเบื่อเลย
ฉันมองดูลูกสาวตัวเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่บนผืนทรายอย่างสนุกสนานและยิ้มออกมาบางๆ ไม่เพียงแค่ฉันเท่านั้นที่รู้สึกมีความสุข แม้แต่ทิฟฟานี่คนรักที่ยืนอยู่ข้างกาย ก็ยิ้มออกมาเพราะกำลังมีความสุขเช่นเดียวกัน
“โอ๊ยยย !!”
เสียงร้องของลูกสาวที่สะดุดล้มลงบนผืนทรายดังขึ้น ทำให้ฉันรีบหันกลับไปและเร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไปหาทันทีเพราะความเป็นแม่ ที่เป็นห่วงลูกสาวของตน ฉันค่อยๆ จับที่แขนของฮยอนอาขึ้นเบาๆ และปัดเอาฝุ่นทรายที่เปรอะอยู่ออกเบาๆ
“ไม่เป็นอะไรนะคะ ไม่เป็นอะไรแล้ว
”
ฉันพูดขณะปัดทรายที่เปื้อนเปรอะออกจากชุดของลูกสาว
“แม่อยู่นี่แล้ว ไม่เป็นอะไรนะคะ
”
ฮยอนอาไม่ตอบอะไร เธอได้แต่พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงตอบรับแม้ว่าน้ำตาจะคลอเบ้าก็ตาม ฉันค่อยๆ ปาดหยาดน้ำตานั้นออกอยางเบามือ ก่อนที่จะดึงเอาลูกสาวเข้ามากอดอย่างอบอุ่น ทิฟฟานี่ที่อยู่ใกล้ๆ จึงย่อตัวนั่งลงและลูบหัวของฮยอนอาเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ
”
เราทั้งสองยังคงนั่งมองดูลูกสาวนั่งเล่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก หมู่เมฆเบื้องบนยังพอเคลื่อนตัวผ่านดวงอาทิตย์ช่วยบดบังแสงแดดที่สาดส่องลงมาได้เป็นช่วงๆ สายลมเอื่อยๆ ก็ยังคงพัดผ่านไปมาอยู่อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ฉันเอนศีรษะพิงซบกับไหล่ของทิฟฟานี่เบาๆ พร้อมกับหลับตาลง
เสียงดังหวีดหวิวของสายลมยังคงพัดผ่านไปมาให้ได้ยินเป็นระยะ กระทั่งสัมผัสอันอบอุ่นจากฝ่ามือของทิฟฟานี่จะโอบไหล่ของฉันเบาๆ และดึงกระชับเข้าไปกอดให้แนบแน่นยิงขึ้น
มันจะมีอะไรที่ทำให้รู้สึกมีความสุขไปมากกว่านี้อีกไหมนะ ?
“แม่คะ ! ดูนี่สิ !!”
กระทั่งฮยอนอาที่น่ารักเดินเข้ามาหาอีกครั้ง พร้อมกับเปลือกหอยสวยงามชิ้นหนึ่ง มันดูคล้ายกับผิวของไข่มุกที่สะท้อนกับแสงแดดเป็นเหลือบรุ้งดูสวยงาม ฉันหันกลับไปยิ้มให้กับลูกสาวที่น่ารักของตน ก่อนที่ทิฟฟานี่จะอุ้มเธอขึ้นมานั่งอยู่ระหว่างกลางของเราทั้งสอง
พร้อมกับโอบเอาไว้เบาๆ
“เราเองก็ไปเล่นน้ำกันเถอะ ไหนๆ ก็อุตส่าห์ได้มาพักทั้งที”
ทิฟฟานี่เอ่ยชวนพร้อมกับพยุงตัวลุกขึ้นและปัดฝุ่นทรายออกจากก้น ส่งสายตาเชิญชวนพร้อมกับมือขวาที่ยื่นมาตรงหน้า แทยอนยิ้มตอบกลับไปพร้อมกับส่งมือไปจับมือข้างนั้นของทิฟฟานี่เอาไว้
“เอาสิ
”
เธอตอบกลับเบาๆ
และยิ้มออกมา
.
.
.
ทิฟฟานี่ที่นอนหนุนแขนของแทยอนค่อยๆ ยันตัวขึ้นมาและมองดูภาพใบหน้าของหญิงสาวคนรักของเธอที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างกายและยิ้มออกมา
เธอกำลังฝันถึงเรื่องอะไรอยู่กันนะแทยอนอา
ถึงได้ยิ้มซะกว้างแบบนี้
^^
--------------------------------------
รุ่งเช้าของวันต่อมา
แสงแดดอ่อนๆ เริ่มสาดแสงเข้ามา พร้อมๆ กับสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่านไปมาอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง อากาศเย็นสบายที่ไม่สามารถหาได้จากในเมืองหลวงทำให้สองสาวที่นอนกอดกันอยู่แทบไม่อยากจะตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนหวานเลย
วิ้วว
วิ้วววว
สายลมแผ่วๆ ที่พัดผ่านใบหูส่งเสียงเบาๆ คล้ายกับเสียงกระซิปปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมา ทิฟฟานี่เป็นคนแรกที่รู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงียใช้มือข้างขวาป้องปากยามหาว ก่อนที่จะใช้ยกขึ้นมาระดับสายตาบังแสงแดดที่เริ่มสาดส่องเข้ามา สีสันอันสวยงามของธรรมชาติยามเช้า เหมือนกับเป็นภาพเขียนด้วยปลายพู่กันของศิลปินระดับชาติเลยก็มิปาน
ทั้งแสงเงา
ประกายระยิบระยับที่สะท้อนกับผืนน้ำ
สีเขียวสดของต้นไม้นานาพันธุ์
ทุกอย่างล้วนมารวมกันราวกับเป็นภาพเขียนขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถอธิบายถึงความงดงามของมันออกมาได้เลย
ทิฟฟานี่ค่อยๆ บิดขี้เกียจอย่างช้าๆ แม้ว่าดวงตาจะยังคงลืมได้ไม่เต็มที่ แต่เธอก็สามารถสัมผัสได้ถึงสาวคนรักที่ขยับตัวลุกขึ้นตามมา พร้อมกับยิ้มให้บางๆ ด้วยความรัก
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ
ที่รัก”
แทยอนกล่าวขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนหวาน เช่นเดียวกับสาวตายิ้มที่ค่อยๆ ยื่นใบหน้าเข้าไปหา และบรรจงมองรสจูบอันแสนอ่อนหวานให้กับแทยอน และถอนออกอย่างช้าๆ
“อรุณสวัสดิ์จ๊ะ
แทยอนอา”
.
.
.
เวลา 10.30 นาฬิกา ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนการเดินทางกลับสู่กรุงโซลประเทศเกาหลี
ทั้งสองยังคงใช้เวลาที่เหลือเดินเลียบหาดทรายสีขาวไปด้วยกันปล่อยให้เกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้ามาสัมผัสกับปลายเท้าที่แช่อยู่ในน้ำ สายตามองตามเกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้าฝั่งไปจนเกือบถึงรองเท้าแตะของพวกเธอที่ถอดวางคู่กันเอาไว้ พลันสายตาเหลือบไปเห็นเจ้าปูเสฉวนตัวน้อยที่ค่อยๆ ไต่ขึ้นรองเท้า ทิฟฟานี่จึงชี้ให้แทยอนคนรักดู
“ดูนั่นสิแทยอนอา
”
ปลายนิ้วชี้ไปทางเจ้าปูตัวนั้น
แต่แทยอนกลับไม่ทันได้เห็น เพราะสายตาของเธอไม่ได้อยู่ที่ปลายนิ้วของทิฟฟานี่ แต่สายตาของเธอกลับจดจ้องอยู่ที่สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนี้
ตัวที่ทิฟฟานี่สวมอยู่ต่างหาก
“เธอจ้องอะไรของเธออยู่น่ะแทยอนอา !”
กล่าวขึ้นด้วยท่าทีเขินๆ ใบหน้าแดงก่ำ นั่นจึงทำให้หญิงสาวร่างเล็กอย่างแทยอนยิ้มออกมาบางๆ และพูดขึ้น
“ก็มองเธอไงล่ะ ฟานี่อา
”
พร้อมกับฉีกยิ้มน้อยๆ ทำให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น แทยอนค่อยๆ ส่งมือเอื้อมไปกุมแขนของทิฟฟานี่เอาไว้ และเริ่มก้าวขาออกเดินไปด้วยกันอีกครั้ง สายลมที่ปะทะเข้ามาทำให้ปลายผมเริ่มพลิ้ว แสงแดดที่สาดส่องลงมาทำให้ทิฟฟานี่ต้องหันไปหยิบหมวกใบเล็กที่ผูกคล้องอยู่กับคอของแทยอนนำมาสวมกันแดดให้กับเธอ
“เดี๋ยวก็ได้เวลากลับแล้วสิ
”
แทยอนสาวร่างเล็กกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ราวกับยังไม่อยากจะกลับ
“นั่น !”
“อะไรเหรอแทยอนอา ?”
ทิฟฟานี่เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยพร้อมกับหันไปดูตามทิศที่แทยอนคนรักของเธอชี้ ทิฟฟานี่ใช้เวลานึกอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะหันมาหยิกแก้มแทยอนที่รักของเธอเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้
“แหม
ทีอย่างนี้ล่ะจำได้แม่นเชียวนะคะที่รัก”
“อ
โอ๊ย อ่าอิกแองอั๊กอิ (โอ๊ยอย่าหยิกแรงนักสิ)”
ทิฟฟานี่ยังคงยิ้มและหัวเราะอย่างชอบใจขณะที่มองดูหญิงสาวคนรักของตัวเองลูบที่แก้มขวาข้างที่ถูกหยิกป้อยๆ ก่อนที่จะดึงเอาร่างของคนรักเข้ามาและหอมแก้มเธอเบาๆ
“หายเจ็บนะคะที่รัก”
พร้อมกับรอยยิ้ม
“ไหนๆ วันนี้ก็วันสุดท้ายแล้ว
เราลองไปทำอะไรที่เรายังไม่ได้ทำกันดีกว่า ตรงไหนที่เรายังไม่ได้ไป
”
“นั่นสิ
อ้อ ! อย่าลืมซื้อของฝากไปให้ซอจูด้วยนะ !”
แทยอนเอ่ยขึ้น
“อันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วล่ะที่รัก ^^”
ทิฟฟานี่ตอบกลับ ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินกลับขึ้นมายังบริเวณที่ได้ถอดรองเท้าเอาไว้ และเดินไปนั่งลงที่เนินเล็กๆ ที่ด้านล่างนั้นเคยเป็นที่ๆ พวกเธอได้มีโอกาสมาทำอะไรต่อมิอะไรกัน
ทั้งสองหันหน้ามองกันสักพัก
และไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ใบหน้าของพวกเธอก็ค่อยๆ เลื่อนเข้าหากัน
.
.
.
และจูบกันในที่สุด
---------------------------------
ซ่าา
ซ่าาา
เสียงของเกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้ากระทบผืนทรายที่ชายฝั่ง พระอาทิตย์ดวงโตที่ค่อยๆ ลับขอบฟ้าไปทีละน้อยๆ บรรยากาศยามที่ท้องฟ้านั้นแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มประกายสีทองดูสวยงามช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่งนัก สายลมพัดหวีดหวิวไปมาอย่างไม่ขาดสายช่วยคลายความรู้สึกต่างๆ ที่ค้างคาอยู่ในใจให้หายไปทีละนิด
ทิฟฟานี่มองดูแทยอนคนรักที่เพิ่งจะลุกเดินไปยังชายหาดเบื้องหน้าก่อนที่จะนั่งลง เธอมองดูการกระทำของภรรยาที่รักอยู่อย่างนั้นสักพักด้วยความสงสัย กระทั่งแทยอนจะหันซ้ายหันขวาและลุกไปหยิบเอากิ่งไม้มา
และเริ่มบรรจงเขียนลงบนผืนทรายอย่างช้าๆ
T
A
E
Y
E
O
N
เมื่อได้เป็นชื่อของเธอ แทยอนก็ยิ้มกริ่มออกมาอย่างชอบอกชอบใจจนทิฟฟานี่ต้องตัดสินใจลุกขึ้นไปดู
A
L
.
.
.
“จะเขียนคำว่าอะไรเหรอ ?”
น้ำเสียงหวานๆ พร้อมรอยยิ้มดังขึ้นจนแทยอนค่อยๆ หันกลับไปอย่างช้าๆ หน้าของเธอแดงขึ้นเล็กน้อยเพราะความเขินอายก่อนที่จะหอมแก้มหญิงสาวที่รักไปฟอดใหญ่และหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเขียนต่อ
W
A
Y
S
“Taeyeon always
”
ทิฟฟานี่เริ่มอ่านตามสิ่งที่แทยอนคนรักของเธอเขียน
“Love Tiffany เหรอ ?”
พร้อมกับเดาต่อ ทำเอาแทยอนถึงกับชะงักและหยุดเขียนไปทันที
“อือฮึ !”
เธอตอบกลับและเริ่มเขียนต่อจนกระทั่งมันเสร็จ ทิฟฟานี่ค่อยๆ โอบกอดร่างของแทยอนเอาไว้หลวมๆ พร้อมกับอ่านข้อความที่ภรรยาเธอเขียนเอาไว้บนผืนทรายเบาๆ
“Taeyeon always love Tiffany
”
และเงียบไปสักพัก พร้อมกับกระซิปตอบกลับ
“Me too sweetheart, I always love you
my Taeyeon”
พร้อมกับจุมพิตเธอที่ริมฝีปากเบาๆ
ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นรสจูบที่แสนดูดดื่มแทน
.
.
.
Final Part will be launched soon
NC [18+] Sex on the beach : TifTae
ความคิดเห็น